
ในยุคที่ชีวิตเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความเครียด การสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากยิ่งขึ้น หลายคนอาจมองว่าบ้านเป็นเพียงที่พักพิงสำหรับการพักผ่อนและการนอนหลับ แต่แท้จริงแล้ว บ้านเป็นที่ที่เราสามารถสร้างสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีได้ ดังนั้นแนวคิด "Wellbeing Home" หรือบ้านเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีจึงมีความสำคัญมากในการดำรงชีวิตของเรา😉
บ้านที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีไม่เพียงแค่ให้ความสะดวกสบาย แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพและความสุขของผู้อยู่อาศัย การออกแบบและก่อสร้างบ้านให้เป็น Wellbeing Home จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ ส่งเสริมการมีชีวิตที่สมดุล และเพิ่มคุณภาพชีวิตในทุกๆ ด้าน
การให้ความสำคัญกับ Wellbeing Home ไม่ได้เป็นเพียงแค่การตอบสนองต่อกระแสสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของตัวเราเองและครอบครัว การมีบ้านที่สนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีสามารถลดความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บ ลดความเครียด และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน
ในบทความนี้ เราจะกล่าวถึงหลักการและแนวทางในการสร้าง Wellbeing Home เพื่อให้บ้านของเราเป็นที่ที่ไม่เพียงแค่ให้ที่พักพิง แต่ยังเป็นที่ที่เสริมสร้างสุขภาพและความสุขในทุกๆ วัน
1. Green living

อยู่สบายในบ้านประหยัดพลังงาน การจัดวางผังโครงการให้มีการบังแดดที่ดี และเปิดรับลมธรรมชาติให้ลมเข้าบ้านทุกหลังจะช่วยลดเวลาการเปิดแอร์ ประหยัดค่าไฟฟ้า ลดโลกร้อนได้ และพื้นที่สวนจะช่วยลดอุณหภูมิของลมที่จะเข้าไปสู่ตัวบ้านแต่ละหลังได้ ตัวอย่างการลดใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติและประหยัดค่าใช้จ่าย
2. Healthy living

อยู่สบายในบ้านเพื่อสุขภาพ การลดสารพิษที่มีผลต่อทางเดินหายใจ เช่นโรคภูมิแพ้จากวัสดุก่อสร้าง รวมถึงบ้านที่เน้นสุขภาของผู้อาศัยจะส่งเสริมเรื่องสุขภาพจิต เมื่อได้อยู่ในบ้านสภาวะน่าสบาย ร่างกายจะมีสมดุล ลดความเครียดในด้านต่างๆ
3. Organized Living

อยู่สบายในบ้านที่สะดวกสบาย คำนึงถึงการใช้งานในทุกๆช่วงวัยและสภาพร่างกายและผู้สูงอายุ หรือทางลาดบริเวณจุดต่าง ของบ้าน หรือห้องน้ำที่คำนึงดึงการใช้งานแบ่งโซนแห้งและโซนเปียก เลือกใช้สุขภัณฑ์ที่ขนาดเหมาะสมกับการใช้งานและประตูบานเลื่อน วัสดุปูพื้นไม่ลื่น
4. Cozy living

อยู่สบายในบ้านที่อบอุ่น จัดสรรพื้นที่ส่งเสริมการใช้เวลาร่วมกันของสมาชิกทุกคนในครอบครัวให้มีกิจกรรมร่วมกันมาก โดยพื้นที่จะทำให้คนในบ้านรู้สึกมีการเชื่อมต่อกันทางจิตวิทยามากขึ้นเช่นการออกแบบให้พื้นที่ส่วนกลาง เจาะช่องเปิดให้เชื่อมต่อกันในบริเวณที่มีการใช้งานบ่อยๆ
5. Pleasant Neighborhood Living

อยู่สบายในชุมชนน่าอยู่ หมู่บ้านน่าอยู่ในหมู่บ้านขนาดกลางทำให้เพื่อนบ้านทุกหลังรู้จักกันอย่างดี ในสังคมคุณภาพ ในหมู่บ้านที่มี Concept ที่เน้นผู้อยู่อาศัยที่ห่วงใยและใส่ใจในสังคมและสิ่งแวดล้อม การจัดพื้นที่สีเขียวหรือการจัดพื้นที่ส่วนกลางที่มีประโยชน์ใช้สอยร่วมกัน โดยมักจะเห็น เด็กเล็ก ชุมชนผู้สูงอายุลูกบ้านพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่นได้จับกลุ่มคุยกันอย่างมีความสุขในพื้นที่ส่วนกลางจุดต่างๆ ในหมู่บ้านที่จัดเตรียมไว้ให้หมู่บ้านมีชีวิตชีวา
ทาวน์โฮมเนื้อที่ บ้านเดียว พร้อมดีไซน์ที่ทำให้บ้านกว้าง โปร่ง โล่ง ด้วยการออกแบบ ในการรับมีช่องรับแสงจากธรรมชาติ สามารถประหยัดพลังงานได้ค่อนข้างดี ตามหลัก Well-Being Home🌳
.
🌟ยูนิตพิเศษ แปลงมุม เนื้อที่ 30 ตร.ว. ซื้อทาวน์โฮม พร้อมสวนข้างบ้านขนาดใหญ่!
เพียง 2 ยูนิตพิเศษ ราคา 4.95 ลบ*
พื้นที่ที่เหมาะกับทุกครอบครัว บ้านที่มีสัตว์เลี้ยง โครงการที่เงียบสงบ ใกล้มหาวิทยาลัยบางมด
.
พื้นที่ : 30 ตร.ว. (รวมพื้นที่ สวนข้างบ้าน)
ลักษณะโครงการ : ทาวน์โฮม 3 ชั้น
จำนวน : 4 นอน 3 น้ำ 1 ครัว 1 ห้องรับแขก 1 ห้องอเนกประสงค์
ที่จอดรถ : 2 คัน
ติดต่อนัดชมโครงการ
เบร์ติดต่อ 064 919 4563 (เจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย)
Line: @papus_property
#บ้าน #บ้านที่เหมาะกับคนรักสัตว์ #ทาวน์โฮม #บ้านประชาอุทิศ #บ้านพระราม3 #บ้านใกล้ทางด่วน #บ้านบางมด #บ้านทุ่งครุ #Ashi #papusproperty
留言